[เฝ้าเดี่ยว] เอเสเคียล 17:1-24 โดย… อ. พิพัตรา (ศ. 17/06/2022)

⛪บทเรียนจากอินทรีกับเถาองุ่น
🙏 17/6/22 อสค.17:1-24
😀 ทบทวนเนื้อหาด้วยคำถาม

1.พระเจ้าสอนอะไรแก่คุณจากพระธรรมตอนนี้?
❤พระเจ้าตรัสคำอุปมาผ่านเอเสเคียลผู้เปยพระวจนะเรื่องนกอินทรีนั้นมีความหมายดังนี้ นกอินทรีตัวแรก หมายถึง กษัตริย์บาบิโลน และ ที่นกอินทรีได้เอาเถาองุ่น (เถาองุ่น คือ พงศ์พันธุ์อิสราเอล) ไปปลูกในแผ่นดินพ่อค้าวานิชย์ หมายถึง บาบิโลนได้มากรุงเยรูซาเล็มและกวาดต้อนกษัตริย์และบรรดาขุนนางไปบาบิโลน แล้วกษัตริย์บาบิโลนได้แต่งตั้งเจ้านายคนหนึ่งมาปกครองยูดาห์และ มีการทำสัญญา (ถวายสัตยาบัน)ว่า “จะจงรักภักดี” (ในฐานะเป็นเมืองขึ้นของบาบิโลน) และ กษัตริย์บาบิโลน (เนบูคัดเนซาร์) ได้นำคนระดับผู้นำของยูดาห์ไปบาบิโลน เพื่อให้อาณาจักรยูดาห์ตกต่ำลง และไม่สามารถรุ่งเรืองขึ้นอีก จะอยู่รอดได้ก็ต่อเมื่อรักษาสัญญา แต่ว่า เถาองุ่น (อิสราเอล)ไม่ซื่อสัตย์ กลับไปหานกอินทรีอีกตัว (คือ กษัตริย์อียิปต์) เพื่อขอให้อียิปต์มาช่วย ซึ่งเขาได้ละเมิดสัญญาต่อบาบิโลนจะหนีรอดไม่ได้ และพระเจ้าตรัสว่า เขาจะตายในบาบิโลน และ กองทัพของฟาโรห์จะช่วยไม่ได้ ดังนั้น พระเจ้าใช้อุปมาเรื่องนี้เพื่อเปรียบเทียบให้พงศ์พันธุ์ชอบกบฏทราบว่า “ฉะนั้น พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต จึงตรัสดังนี้ว่า เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด เราจะลงทัณฑ์เขาตามคำปฏิญาณของเราที่เขาลบหลู่ และตามพันธสัญญาของเราที่เขาละเมิดฉันนั้น” (ข้อ 19) พระเจ้าจะดักเขา และเขาจะถูกนำไปยังบาบิโลนและพิพากษาลงโทษเขาที่นั่นเพราะเขาไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า ทหารของพวกเขาที่หนีไปจะตายด้วยดาบและผู้รอดชีวิตจะถูกทำให้กระจัดกระจายไป “เมื่อนั้นเจ้าจะรู้ว่าเราเป็นพระยาห์เวห์ได้ลั่นวาจาไว้” แล้วพระเจ้าตรัสว่าพระองค์เองเป็นผู้นำยอดสนซีดาร์ไปปลูกไว้ที่ยอดเขาแห่งอิสราเอลเพื่อให้กลายเป็นสนซีดาร์ชั้นเยี่ยม (เปรียบสนซีดาร์ คือ อิสราเอล ที่จะได้รับการสร้างใหม่ในอนาคต) ต้นไม้ทั้งปวงจะรู้ว่า พระองค์ได้โค่นต้นไม้สูงลง และทำให้ต้นไม้เตี้ยสูงขึ้น ต้นไม้เขียวเหี่ยวเฉา และให้ต้นไม้แห้งผลิงาม (ต้นไม้ คือ ภาพเปรียบเทียบกับอาณาจักร นี่คือ ความหมายของการที่พระเจ้าควบคุมประวัติศาสตร์ของโลก ที่จะทำลายอาณาจักรยิ่งใหญ่ลง หรือ จะยกอาณาจักรเล็กๆ ให้ยิ่งใหญ่ขึ้น) และลงท้ายอย่างยิ่งใหญ่ว่า “เราผู้เป็นพระยาห์เวห์ได้ลั่นวาจาไว้ และเราจะทำเช่นนั้น”

2.จะนำมาปฎิบัติตามอย่างไร?
🙎ปัญหาของชนชาติอิสราเอที่กบฏกับกษัตริย์บาบิโลนจึงถูกลงโทษอย่างหนัก
(ดู 2 พกษ.24,25) เช่นกันกับการที่ชนอิสราเอลละเมิดพันธสัญญาของพระเจ้าพระเจ้าจะลงโทษพวกเขาตามคำปฏิญาณของพระองค์ที่เขาลบหลู่ นี่เป็นฉากสำคัญของประวัติศาสตร์อิสราเอลที่ประเทศอิสราเอลล้มสลาย สิ้นชาติสิ้นแผ่นดิน อัปยศอดสู ตกไปเป็นเชลยที่บาบิโลนถึง 70 ปีแต่พระเจ้าไม่ได้ทำอิสราเอลให้สิ้นซาก เพราะเมื่อครบ 70 ปีของการเป็นเชลย พวกเขาจะได้รับการสร้างใหม่
นี่เป็นบทเรียนราคาแพงมาก และเข้าใจยาก แต่ขอให้จับหลักการสำคัญคือ พระเจ้าเป็นพระเจ้าแห่งพันธสัญญา ถ้าเราเดินในพันธสัญญา เราต้องซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อพระเจ้า ไม่ใช่เป็นพวกกบฏแบบที่อิสราเอลทำ ไม่เช่นนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นกับอิสราเอลก็จะเกิดกับเราด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น